|
ประโยค Future Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง: Subject + will, shall + have + been + V.1 ing(ประธาน+ will shall +have +been + กริยาช่อง 1 เติม ing)
ตัวอย่าง: 1. She will have been playing tennis. (หล่อนคงจะเล่นเทนนิสอยู่)
2. They will have been cooking. (เขาทั้งหลายคงจะทำอาหารอยู่)
ประโยค Future Simple Tense เชิงเชิงคำถามและการตอบ |
เมื่อต้องการแต่งประโยค Future Simple Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำ will หรือ shall มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง: Will, Shall + Subject + verb 1? (Will, Shall + ประธาน + กริยาช่อง 1?)
ตัวอย่าง: 1. Shall you go to Chiang mai tomorrow? (คุณจะไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่)
- Yes, I shall. (ใช่ฉันจะไป) /
No, I shan’t. (ไม่ฉันจะไม่ไป)
โครงสร้าง: Will, Shall + Subject + verb 1? (Will, Shall + ประธาน + กริยาช่อง 1?)
ตัวอย่าง: 1. Shall you go to Chiang mai tomorrow? (คุณจะไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้ใช่หรือไม่)
- Yes, I shall. (ใช่ฉันจะไป) /
No, I shan’t. (ไม่ฉันจะไม่ไป)
ประโยค Future Simple Tense เชิงปฏิเสธ |
เมื่อต้องการแต่งประโยค Future Simple Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง will หรือ shall ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง: Subject + will, shall + not + V.1 (ประธาน + will, shall + not + กริยาช่อง 1)
ตัวอย่าง: 1. I shall not (shan’t) go to Chiang mai tomorrow.
(ฉันจะไม่ไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้)
โครงสร้าง: Subject + will, shall + not + V.1 (ประธาน + will, shall + not + กริยาช่อง 1)
ตัวอย่าง: 1. I shall not (shan’t) go to Chiang mai tomorrow.
(ฉันจะไม่ไปเชียงใหม่วันพรุ่งนี้)
หลักการใช้ Future Simple Tense |
1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น
- My father will go to America next month. (พ่อของฉันจะไปอเมริกาเดือนหน้า)
- I shall play football tomorrow afternoon. (ฉันจะเล่นฟุตบอลบ่ายวันพรุ่งนี้)
- My father will go to America next month. (พ่อของฉันจะไปอเมริกาเดือนหน้า)
- I shall play football tomorrow afternoon. (ฉันจะเล่นฟุตบอลบ่ายวันพรุ่งนี้)